เมื่อฉันก้าวออกจาก comfort zone
ใกล้ปีใหม่เข้าไปทุกที ปีก่อนๆก็จะบ่นบ่อยๆว่ายังไม่ทันจะได้ทำอะไรเลยหมดไปอีกปีล่ะ แต่ปีนี้ฉันจะไม่บ่นแบบนั้นทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นตั้งแต่ฉันก้าวออกมาจาก comfort zone ของตัวเอง ซึ่งเป็นก้าวที่แสนจะยากลำบาก
Comfort zone ของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป สำหรับฉันคือการทำงานประจำที่มีเงินเดือนแน่นอนแต่ฉันกลับหดหู่ลงไปทุกวันด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง เปลี่ยนงานก็หลายรอบจนมาเจองานที่คิดว่าใช่แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่อยู่ดี ถามตัวเองอยู่นานว่าอะไรล่ะที่จะทำให้เรามีความสุขและเป็นตัวของตัวเอง จนท้ายที่สุดก็คิดว่าทำเสื้อผ้านี่ล่ะคือความสุขของฉัน แต่ด้วยทำงานประจำเลยไม่ได้เริ่มสักทีเพราะยุ่งและเหนื่อยมาก จิตใจไม่เคยปลอดโปร่งโล่งสบาย จึงตัดสินใจลาออกแม่งเลย ลาออกทั้งที่ยังไม่เริ่มทำแบรนด์อะไรทั้งสิ้น
ช่วงแรกที่ออกมาจาก comfort zone ใช้ชีวิตยากมากเลยนะเพราะความกลัวมันปะเดปะดังเข้ามามากมาย ทั้งจากตัวเองและคนรอบข้าง จุดนี้จิตเราต้องแข็งพอสมควรและคิดเสมอว่าถ้าไม่ทำตอนนี้ชีวิตเราก็จะกลับไปเหมือนเดิมที่สำคัญไม่มีเงินใช้ ก็ปล่อยเบลอไปถ้าใครจะมาหัวเราะกับความฝันเรา สิ่งที่เราสามารถทำได้คือต้องแสดงให้คนเหล่านั้นเห็น การกระทำชัดกว่าคำพูดเสมอ
ผ่านมาเกือบสองเดือนกับการขายเสื้อผ้าออนไลน์ ฉันโอเคกับชีวิตตอนนี้มากๆ ชอบที่ไม่ต้องรีบตื่นมาแต่งหน้าแต่งตัวแย่งกันขึ้นรถเมย์ แออัดกันในบีทีเอสในชั่วโมงเร่งด่วน แย่งกันกินในช่วงพักเที่ยง คำนวนวันลาหยุดและอีกมากมายที่ชีวิตมนุษย์เงินเดือนคนนึงจะเจอ ชีวิตตอนนี้ปกติสุขมาก ได้ใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่ไม่ต้องแย่งชิงกับใคร
เพื่อนคนนึงเคยบอกฉันว่า "จงทำสิ่งที่เป็นตัวเอง ทำไปเรื่อยๆวันนึงสิ่งนั้นมันจะชัดเจนขึ้นเอง" และมันก็เป็นจริงอย่างที่เธอกล่าวไว้ มันค่อยๆชัดขึ้นทีละนิด
ในวัย 27 ปีต้องขอบคุณตัวเองที่ได้พยายามเรียนในสิ่งที่อยากรู้ ได้ทำงานที่ฝันไว้ มีกัลยามิตรที่ดี มีครอบครอบครัวที่ช่วยเหลือทุกอย่าง หลังจากนี้ก็มีสติในการใช้ชีวิตแล้วตั้งใจทำงานที่เรารักต่อไป
ป.ล เขียนไว้แล้วกลับมาอ่านปีหน้า ตอนนั้นอาจจะสบถออกมาว่า โถ! ไอ้เด็กน้อยเขียนอะไรไปเนี่ย ไร้สาระแท้ ฮ่าๆ
ป.ล 2 ทั้งหมดคือรูปเบื้องหลังการทำงานของเรา ทำแบบงูๆปลาๆแต่โคตรตั้งใจ
Comments
Post a Comment