My 2018 results

เป็นธรรมเนียมของตัวเองที่ทุกๆสิ้นปีจะเขียนสรุปเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตในช่วงปีนั้น อย่างน้อยก็เป็นการบอกตัวเองว่าเราเติบโตขึ้นเพียงใด

1. Full time freelancer

เป็นหนึ่งปีเต็มๆที่ใช้ชีวิตแบบไม่ได้ทำงานประจำซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่รวมๆรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นนะ อย่างแรกปัญหาเรื่องความเครียดสะสมเราน้อยลงมากๆทำให้ปัญหาเรื่องสุขภาพเราน้อยลง

จากแต่ก่อนที่ทำงานเครียดๆแล้วระบายด้วยการซื้อเสื้อผ้าอย่างบ้าคลั่ง กินอย่างดุเดือด เที่ยวอย่างไม่เกรงใจใครจนไม่มีเงินเก็บ 555555

2. Money planer

นี่คือสิ่งที่ภูมิใจมากเพราะว่าการทำธุรกิจถ้าเราไม่ควบคุมรายรับรายจ่ายแล้ว ปัญหาเรื่องการหมุนเงินมีแน่นอน ซึ่งเราก็เก็บเท่าที่เราจะเก็บได้ มีเงินเที่ยวหรือซื้อของต่างๆที่ตอนทำงานประจำไม่กล้าซื้อ ไม่ใช่คนเก่งอะไรเลยเราแค่ขี้เหนียว :D

3. Music drive my life

 ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้ไป Festival ต่างประเทศนั้นก็คือ Good vibes festival ปีหน้าถ้ามีเงินอยากไปญี่ปุ่นมากๆ อีกหนึ่ง Festival ในไทยที่เราประทับใจมากที่รอคอยมานานคือ Wonderfruit festival ซึ่งมันมากกว่าแค่ไปฟังเพลงรวมทั้งเปิดโลกการฟังเพลงของเรามากๆ เราโชคดีด้วยที่ได้ไปในปีที่เค้าเปลี่ยนสถานที่จัดใหม่ ยังมีคอนเสริตอีกหลายๆวงที่เราได้มีโอกาสดูทั้ง Tahiti 80,  Mohorasop festival, RHYE, Chad Valley, Homeshake ถึงแม้จะดูไม่เยอะแต่ก็ดูนะ

4. People of 2018

เหล่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่เราได้รู้จักในปี 2018 ทั้งมาจากงานที่ทำทั้งพบเจอด้วยความบังเอิญหรือพรหมลิขิต ถือว่าเป็นสิ่งดีสำหรับเรามากเพราะคนเหล่านั้นมักจะส่งต่อแรงบันดาลใจให้เราได้เสมอ

5. Vicvi around the world

ถึงแม้การเป็น freelance จะมีเวลาเยอะกว่าทำงานประจำแต่เราเที่ยวต่างประเทศน้อยกว่าแต่ก่อนเพราะคิดเยอะเรื่องการใช้เงิน อีกอย่างตอนทำงานประจำเรารู้สึกว่าเครียดมากต้องไปเที่ยวที่ไหนก็ได้เพื่อให้รางวัลตัวเอง หยุดเมื่อไหร่ต้องหาเรื่องเที่ยวแต่เดี๋ยวนี้เรามีความสุขง่ายกว่าแต่ก่อนจึงไม่จำเป็นเลยที่เราจะต้องทำอะไรเพื่อให้ตัวเองมีความสุข แค่เราขายของได้ก็มีความสุขล่ะ 555555

แต่ถ้ามีเงินเยอะๆเราก็คงเที่ยวแหละ ทุกอย่างอยู่ที่เงินนนนนนน 

6. การเปิด IG เป็น public 

จากเมื่อก่อนกลัวว่าจะมีคนที่เราไม่ชอบหรือไม่รู้จักมาเสือกเรื่องของเราโดยการส่อง IG 

แต่ความคิดก็เปลี่ยนไปเพราะถ้าเรา appreciate ชีวิตตัวเองแล้ว เราลงรูปไปมีความสุขไปจะกลัวคนอื่นรู้ทำไม เราต้องส่งต่อความสุขรูปสวยๆ สถานที่ดีๆ เรื่องราวดีๆให้คนอื่น แต่ถ้าคนที่รับสารของเรารู้สึกไม่ดีก็เรื่องของเค้า เรามีความสุขพอ จบจ่ะ :P

พยายามให้พื้นที่ของเรามีแต่เรื่อง positive สิ่งที่มันแย่ๆก็อย่าไปโพสเพราะเดี๋ยวมันก็ผ่านไป เก็บสิ่งที่ดีๆไว้ให้ระลึกถึงก็พอ

7. Photography

ได้กลับมาถ่ายรูปเยอะขึ้น ทั้งถ่ายให้แบรนด์ตัวเองและถ่ายเล่นต่างๆ มีความสุขทุกครั้งที่ได้จับกล้องและเห็นผลงานของตัวเอง สวยบ้างไม่สวยบ้าง

สุดท้ายนี้ขอให้ปี 2019 เป็นปีที่เราแข็งแกร่งและเติบโตยิ่งๆขึ้นไป สุขกายสุขใจ ได้เที่ยวได้ดูคอนเสริตเยอะๆด้วยจ้า สาธุ