Chinese puzzle : Life is complicated

Xavier ชายหนุ่มวัยสี่สิบปีกำลังประสบปัญหาชีวิต เขาแยกทางกับภรรยาชาวอังกฤษที่อยู่กินกันมากว่าสิบปี โดยภรรยานำลูกๆทั้งสองคนไปอยู่ที่นิวยอร์คด้วย Xavier ทนไม่ได้ที่ต้องเห็นลูกๆเติบโตโดยไม่มีเขา จึงตัดสินใจทิ้งงานการเป็นนักเขียนที่กำลังรุ่งที่ปารีสไปใช้ชีวิตที่นิวยอร์ค เมืองที่เขาเป็นใครก็ไม่รู้ในสายตาคนอเมริกา ที่นิวยอร์คเขาไปเจอกับเพื่อนชาวเลสเบียนที่เขาได้บริจาคน้ำเชื้อให้ เนื่องจากเธอต้องการมีลูกมากๆแต่เธอไม่อยากได้น้ำเชื้อจากคนที่เธอไม่รู้จัก เธอจึงขอความช่วยเหลือจาก Xavier  ถ่านไฟเก่าระหว่างเขาและ Martine ก็กำลังปะทุขึ้นอีกครั้ง  อีกทั้งเขาต้องแต่งงานกับสาวจีนเพื่อให้ได้สัญชาติอเมริกา เขาจึงคิดว่านี่แหละคือความซับซ้อนของชีวิตที่กำลังประสบอยู่

เรื่องนี้เราจะเห็นผู้หญิงสามคนที่เกี่ยวข้องในชีวิตของ Xavier
1. Wendy ภรรยาและแม่ของลูกทั้งสองคน สาวชาวอังกฤษผู้มีความอ่อนไหว
2. Isabelle เพื่อนสาวเลสเบี้ยนคนสนิท ที่ขอน้ำเชื้อของ Xavier และให้กำเนิดลูกคนที่สามของ Xavier ที่เธอให้นิยามว่าเขาไม่ใช่พ่อแบบสมัยเก่า
3. Martine อดีตคนรักสมัยยังไม่ได้พบรักกับ Isabelle การกลับมาของเธอครั้งนี้มีความหมายต่อเขามาก Martine มีลูกสองคนรุ่นราวคราวเดียวกับลูกของ Xavier

แปลกตรงที่ทั้งสามคนต่างรู้จัก Xavier อย่างทะลุประโปร่ง มีฉากหนึ่งที่ทั้งสี่คนอยู่ด้วยกันและทั้งสามสาวต่างโต้เถียงว่าแท้จริงแล้วสาวแบบไหนที่เหมาะกับเขา จนสุดท้าย Wendy ได้สรุปว่าสาวคนนั้นคือส่วนผสมของเธอทั้งสามคน

หนังเรื่องนี้จะปรัชญาคำคมแฝงอยู่ ชอบฉากหนึ่งที่ Xavier ตื่นเช้ามาแล้วมีนักปราชญ์มาเคาะประตูในขณะที่เขากำลังคิดว่าความว่างเปล่าคืออะไร นักปราชญ์ได้ให้คำตอบว่าความว่างเปล่าคือสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นตลกร้ายเลยนะ

ในตอนจบบรรณาธิการสำนักพิมพ์ที่เขาเขียนหนังสือให้ได้อ่านต้นฉบับเล่มล่าสุดที่เขาเขียนจบเกี่ยวกับความซับซ้อนของชีวิต บอก Xavier ว่า “I have a problem with the ending,” ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยประทับใจตอนจบแบบ happy ending สักเท่าไหร่ ซึ่ง Xavier กลับมองว่าชีวิตเขาผ่านความโหดร้ายมามากและในตอนนี้เขาก็มีความสุข ไม่เห็นจำเป็นที่นิยายที่มีเนื้อหารันทดในตอนต้นจะจบแบบ happy ending ไม่ได้

ชื่นชมคนเขียนบทเรื่องนี้มากทุกคำพูดของตัวละครแต่ละตัวมีความหมาย ไม่ใช่คำพูดที่ไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อหนัง นี่ล่ะเหตุผลว่าทำไมถึงชอบดูหนังฟอร์มเล็กจากต่างประเทศ แม้จะไม่มีเอฟเฟคหรือ 3D ให้เราตื่นตาตื่นใจแต่เราสามารถสัมผัสได้ถึงความจริงของชีวิต เหมือนทุกคำพูดของตัวละครสามารถสะท้อนถึงตัวเองได้ ในขณะที่หนังฟอร์มยักษ์จากฮอลลิวู้ดให้เราได้แต่ความบันเทิงกับการดำเนินเรื่องที่สามารถเดาตอนจบได้แบบไม่ต้องสืบ

Comments